รูปนี้เหมือนไม่ค่อยมีรายละเอียด แต่การแบ่งระยะในภาพยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เรือที่เป็นจุดเด่น ควรใส่ใจในการร่างเป็นพิเศษ เพราะลักษณะหัวเรือพุ่งเข้ามาข้างหน้า จะทำให้เรากะระยะและมุมมองผิด รวมถึงระยะห่างจากท้ายเรือ ไปจนถึงเส้นขอบฟ้า เหล่านี้เป็นส่วนที่บ่งบอกระยะใกล้ไกลในภาพ
1.รองพื้นทั้งภาพด้วยสีโทนฟ้าสีเดียวทั้งรูป 1 รอบ รอให้แห้ง
เราจะมาไล่โทนสีเพื่อให้ท้องฟ้ามีน้ำหนัก อ่อน-แก่ กันตั้งแต่ตอนรองพื้น ต่างจากที่ผ่านมาซึ่งเป็นการรองพื้นแบบสีเดียวเรียบๆ
สีที่ต้องมีในจานสีของเราก่อนจะทำวิธีนี้ คือ
-สีฟ้าที่รองพื้นในชั้นแรก ถ้าหมดก็ผสมใหม่ ขอแค่ใกล้เคียงก็พอครับ
-สีฟ้าผสมให้เข้มขึ้นด้วยน้ำเงินและม่วง
หลัง จากสีฟ้าชั้นแรกแห้งแล้ว ให้ทาสีโทนเข้มที่ผสมแล้วที่ด้านบนสุดของภาพ จากซ้ายไปขวาตลอดแนว แล้วใช้สีฟ้าระบายต่อไปจนทั่ว ใช้แปรงเบอร์ใหญ่ เกลี่ยรอยต่อระหว่างโทนเข้มและอ่อน ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่สีจะแห้ง จะได้ท้องฟ้าที่กลมกลืนมีมิติ อ่อน-แก่
2.รอให้แห้ง แล้วลงมือร่างรูปครับ เวลาร่างรูปเรือให้สร้างเส้นแนวตั้ง และแนวนอนเป็นหลักไว้ จะไม่ผิดสัดส่วนมากเกินไป ใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ ภาพจะสวยหรือไม่สวย การร่างคือจุดเริ่มต้น
3.แล้วจึงเพิ่มเส้นเฉียงในมุมต่างๆไปก่อนโดยยังไม่ต้องสนใจส่วนโค้งต่างๆ สังเกตองศาการเอียงให้มากๆ ซึ่งจะมีผลต่อมุมมองของเรือ
4.เก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย ร่างด้วยสีไม้ แล้วตัดเส้นด้วยสีอะครีลิค จะได้มองเห็นชัดๆ
ส่วนอันนี้เป็นวิธีร่างเรืออีกแบบ รวมถึง perspective และเงาสะท้อน
5.ทำส่วนที่เป็นเมฆ โดยชั้นแรก จะเป็นขาวอมฟ้าม่วง สำหรับเมฆระยะไกล และผสมขาวมากขึ้นสำหรับเมฆชั้นที่สอง
ช่วงของท้องฟ้าด้านล่าง ใส่ขาว+ส้มเล็กน้อยเป็นสีของแสงแดดอ่อนๆ
6.ส่วน ของเกาะด้านหลัง ใช้สีรองพื้นผสมม่วงและน้ำเงิน ระบายลงไป ส่วนเกาะด้านหน้า ใช้สีม่วงน้ำเงิน+น้ำตาลทำส่วนเข้ม และม่วงน้ำเงินแต่ใส่น้ำจางๆทำส่วนน้ำหนักลาง เนื่องจากเรารองพื้นภาพด้วยโทนฟ้า เพื่อคลุมบรรยากาศโดยรวมของภาพแล้ว ทำให้รายละเอียดตรงนี้ เราแค่ใส่สีจางๆฉาบลงไปก็เพียงพอ สุดท้ายใส่สีเขียวเป็นส่วนของต้นไม้ ให้คำนึงถึงแสงเงาก่อน มองให้ออกว่าตรงไหนเข้มตรงไหนอ่อนแล้วจึงค่อยเติมลักษณะtexture ตอนหลัง
การทำรายละเอียดก่อนจะทำให้เราพลาดเรื่องแสงเงา
7.พื้น น้ำส่วนที่เป็นเส้นขอบฟ้า ใช้น้ำเงินอมม่วง ใส่น้ำจางๆ เขียนเป็นแสงเงาเข้มไล่มาอ่อน เติมเขียวน้ำทะเล โดยใช้ phatalo green+ขาว
8.ใช้ เหลือง+ขาว และส้มเหลือง+ขาว ลงสีในส่วนหน้า ตรงนี้เราอาจจำลองทิศทางการปัดของเส้นพู่กันตามระลอกคลื่น ก็จะได้ลักษณะของน้ำที่กำลังเคลื่อนไหว
9.ราย ละเอียดของเรือ ใช้น้ำเงิน+น้ำตาล ที่ส่วนลึกสุดของเรือ ใช้น้ำตาลแดง+yellow ochre ลงในส่วนของไม้ ผสมอ่อนแก่ ตามลักษณะแสง-เงาของตัวเรือ ถึงตรงนี้คือรองพื้นเสร็จแล้วครับ การ รองพื้นหากเราใส่ใจมากเท่าไหร่ รอบที่สองคือการเก็บรายละเอียดจะทำให้เราทำงานได้ง่ายมากขึ้นจบงานได้เร็ว ไม่มีใครอยากทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาในส่วนเดิมๆ(โดยเฉพาะมือใหม่)เพราะจะทำให้ เบื่อหน่าย และไม่อยากทำอีก
10.ขั้น ตอนการเก็บรายละเอียด มองดูว่าท้องฟ้าที่เราทำเข้ากับองค์ประกอบอื่นๆได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ไม่ต้องเพิ่ม หรืออาจมีเติมเล็กๆน้อยๆ ถัดมาที่เกาะด้านหน้าก็เพิ่มรายละเอียดไปอีก มาที่ทะเลหากสีหรือรายละเอียดยังไม่พอใจก็เพิ่มไปเลยครับ
มาที่เรือสีดู จืดเกินไปและยังไม่ได้ใส่รายละเอียด ตรงนี้ใช้สีไม่หนีไปจากโทนเดิม อ้อ สังเกตอีกนิด ส่วนด้านข้างของเรือสีจะดูยากมองไม่ออกว่าเป็นสีอะไร จริงๆแล้วก็คือสีของไม้ แต่ให้แทรกสีฟ้าน้ำทะเลไปด้วย เพราะเป็นสีที่สะท้อนมาจากน้ำทะเล ดูภาพรวมอีกที ถ้าพอใจก็เป็นอันจบงานครับ
ก่อน วาดควรคิดกำหนดภาพรวมไว้ในหัวก่อนครับ ว่าจะเขียนสไตล์ไหน ถ้าเขียนเหมือนจริง ก็ไม่ต้องคิดมากเพียงแต่ต้องแม่นยำเรื่องสีและโครงสร้าง ถ้าชอบงานแบบของใครก็ลอกงานของคนนั้นเพื่อศึกษาวิธีคิด แต่ไม่ใช่ไปยึดติดนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น